ออเดอร์น้อย กำไรเยอะ!!! นี่แหละเทคนิคขายของแบบโจ๊ก
.
.
สูตรเดิม !!! สินค้านำเข้าจาก Shopee ไม่ผสมโซดา จ่ายหลักร้อย กำไร หลักพัน ถึง หลัก หมื่นในบางวัน ส่งน้อยแต่กำไรเยอะ ไม่ต้องใช้คนเยอะ ง่ายชิบหาย ฮ่าๆๆๆ อยากได้เยอะ กำไร หลักแสน หลักล้าน เราก็แค่สเกล แนวราบ เจาะ DATA นอนกินยาวๆ คุ้มแค่ไหนถามใจเธอดู โมเดล โจ๊ก ไม่ใช่โมเดลที่ดีที่สุด ที่รวยที่สุด ไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆ โมเดลโจ๊ก คือ เน้นทำกินแบบบ้านๆ ไม่ต้องโต โว้ย ทำเอง แพ็คเอง ทำกันในบ้าน ไม่ต้องจ้างคน !!!! จะเอาอะไรมากมายว๊ะ อยากได้เยอะ ก็ขยายคน ขยายทีมงานกันไป ช่วยกัน เก็บ DATA ได้เยอะแน่นอน เห้อ!!!!!! โมเดล 1,000 บ้าน โจ๊กเคยทำมาแล้ว 3 ปีก่อนโน้น !!! โจ๊กไม่โอ เหนื่อยแทบตาย ทีมงานเยอะ สุดท้ายกำไรกระจึ๋ง ต้องมานั่งแบกภาระแอดมิน กลัว แอดมินว่าง โอ้ยดราม่า โจ๊กเจ็บมาเยอะ เบื่อชิบหายเรื่องดราม่าในองค์กร ยิ่งมากคน ยิ่งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ พอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.
.
จะว่าไป !!! สำหรับพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เวลาขายของแล้วใครก็อยากได้กำไรทั้งนั้นใช่มั้ย ??? ใช่สิ… ถ้าไม่เอากำไรจะขายทำแมวน้ำอะไร ถามแปลก ฮ่าๆๆๆ นี่ไม่ใช่คำถามจริงครับ เพราะสิ่งที่อยากรู้ความคิดเห็นของทุกคนคือ ปกติเวลาขายของกันเนี่ย ขายเน้นเอากำไรต่อชิ้นสูง หรือเน้นปริมาณเข้าว่า???
.
.
มันต้องเริ่มต้นจากลักษณะของสินค้าก่อนอยู่แล้ว… สินค้าบางประเภทต้องขายจำนวนเยอะ ๆ ถึงจะคุ้มทุนที่ลงไป แต่สำหรับโจ๊กเนี่ย สไตล์การขายจะมองที่ผลกำไรมาก่อน… อย่าพึ่งตกใจคิดว่าโจ๊กหน้าเงินนะ!! ไม่ใช่แบบนั้น แต่อย่างที่บอกไปว่ามันขึ้นอยู่กับลักษณะสินค้าด้วย ตรงนี้แหละที่อยากจะนำเทคนิคดี ๆ มาเล่าสู่กันฟังเอาไว้ใช้จริง ไม่ต้องขายเน้น Volume ก็ทำกำไรได้อย่างที่ใจคาดหวัง
.
.
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนไหนที่ขายสินค้าประเภทแฟชั่น สินค้ามาเร็วไปเร็ว พวกนี้ต้องใส่ใจกับการตั้งราคาเพื่อบวกกำไรเป็นพิเศษนะ ด้วยความที่ตัวสินค้ามันอยู่กับเราไม่นาน พอเวลาผ่านไปคนก็เริ่มไม่สนใจ โจ๊กยกตัวอย่างที่เคยเป็นกระแสดัง ๆ อย่าง “ตุ๊กตาบลายธ์” จำได้มั้ย??? ย้อนไปสัก 5-6 ปีที่แล้ว นี่คือสุดยอดไอเทมที่โคตรฮิตสำหรับสาว ๆ ใครมีไว้ในครอบครองนี่คือสุดยอดแห่งแฟชั่นนิสต้า ดูเก๋ ดูเท่ แต่พอเวลาผ่านไปไม่กี่เดือนกระแสนี้ก็หายวับเข้ากลีบเมฆ!!!
.
.
นี่แหละ…. ที่โจ๊กจะมาบอกเล่ากัน สำหรับคนที่ขายสินค้ากลุ่มแฟชั่น กลุ่มกระแส หรือสินค้าพวกไอที อายุของมันจะสั้นถึงสั้นมาก หากตัดสินใจเอามาขายแล้วต้องตั้งกำไรให้คุ้มกับที่เราลงทุน เช่น เราซื้อของมา 10 ชิ้น กำไรที่ได้ต้องมาจากการขายตั้งแต่ 4-5 ชิ้นแล้วโว๊ย!!! เพราะที่เหลือไม่รู้เลยว่ากระแสจะตกไปเมื่อไหร่ ดังนั้นเวลาเราจะยิงแอดเนี่ย มันต้องปัง ต้องปั๊วะ ให้คนสนใจ ยิ่งถ้าเป็นคนแรก ๆ ที่ยิงแอดเพื่อขายสินค้าประเภทนั้นเมื่อไหร่นี่คือที่สุดแห่งผลกำไรที่ลูกค้าจะเข้าหาแบบไม่ขาดสาย
.
.
ซึ่งเทคนิคที่โจ๊กใช้บ่อยมากเวลาเอาสินค้าใหม่ ๆ มาขายคือ โจ๊กจะวิเคราะห์ก่อนเลยว่าสินค้านี้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายไหนเป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้เขายินดีที่จะซื้อแน่หากเห็นว่าเป็นของที่ต้องการ ยิ่งเป็นของใหม่ยังไม่เคยเห็น ยังไม่เคยใช้ด้วยแล้วนี่มันโคตรแห่งความล้ำหน้า!!! พอตั้งเป้าไว้เรียบร้อย ก็ต่อด้วยการสร้างแอดครับ ซึ่งการสร้างก็ทั่ว ๆ ไปแหละเหมือนที่โจ๊กเคยบอกไป จะนำเสนอด้วยเทคนิคอะไรก็ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ และความครีเอทีฟของแต่ละคน ถึงอย่างนั้นสิ่งหนึ่งที่ย้ำตลอดคือ เมื่อไหร่ที่ยิงแอดไปแล้วต้องรีบกลับมาดู DATA ว่ามันปังแค่ไหน ถ้าเห็นตัวเลขน้อย ๆ ไม่ค่อยกระเตื้องนี่ต้องรีบคิดปรับเปลี่ยนให้เร็วนะ !! สินค้ากลุ่มนี้มันช้าไม่ได้ อย่ารีรอ อย่าเสียเวลาแล้วลุ้นว่าขออีกนิด ๆ ถ้าอยากได้กำไรต่อชิ้นสูง ขายออเดอร์น้อย ๆ มันต้องเอาเร็วเข้าว่า หมดยุคช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามไปแล้ว!!!
.
.
บทสรุปของเรื่องที่โจ๊กเล่าวันนี้คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการขายสินค้าเน้นกำไรสูง ออเดอร์ไม่ต้องเยอะ ความเร็วคือสิ่งสำคัญว่ะ ใครทำได้เร็วกว่าโอกาสเป็นผู้ชนะสูง ที่สำคัญต้องดูกระแสให้ออกด้วยว่ามันรุนแรงขนาดไหน ถ้ารุนแรงมากโจ๊กไม่แนะนำนะ เพราะมันจะเกลื่อน ขายออกยาก แถมกระแสจะไปไวสุด ๆ และอีกเรื่องคือ เวลาจ่ายค่ายิงแอดไปแล้วเนี่ย เราย่อมสนใจเรื่องตัวเลขผลกำไรนะ!! ยิ่งช้า ยิ่งรอนาน รายจ่ายก็สูงขึ้น แต่กำไรไม่ขยับ อย่าลืมเอาไปใช้กันล่ะ “เร็ว เร็ว เร็ว = กำไร”
.
.
ชัดเจนนะ????